ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

กรณีศึกษา แผนธุรกิจ รีสอร์ตของ เรอัล มาดริด

รีสอร์ตของ เรอัล มาดริด
23/03/2012 18:48:36 น.


  
        
"ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ก้าวสู่การเป็นมหาอำนาจลูกหนังโลกอีกครั้ง ด้วยการไปลงทุนสร้าง "เรอัล มาดริด รีสอร์ต ไอส์แลนด์" มูลค่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 30,420 ล้านบาท) ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และคาดว่าจะสามารถเปิดบริการได้ช่วงมกราคม 2015

ที่ตั้งของรีสอร์ต เมื่อมองจากมุมสูง

        
โครงการนี้จะได้รับการดูแลโดย อาร์เอเค มาร์ยัน ไอส์แลนด์ ฟุตบอล อินเวสต์เมนต์ ฟันด์ ภายใต้การสนับสนุนจากรัฐบาลราสอัลไคมาห์ 1 ใน 7 รัฐ ที่อยู่ตอนเหนือของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และทางตะวันออกของอ่าวเปอร์เซีย มีพรมแดนติดกับประเทศ โอมาน พวกเขาไม่ได้ผลิตน้ำมัน จึงเน้นไปลงทุนภาคการเกษตร, ประมง รวมถึงท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างหลัง เพราะพวกเขามีโรงแรม 5 ดาว และรีสอร์ทชายทะเลหลายแห่ง รวมทั้งจัดฮาล์ฟมาราธอน หนึ่งในรายการหลักของสหพันธ์กรีฑานานาชาติ ตั้งแต่ปี 2007 มีทางหลวงช่วยให้การเดินทางจากราสอัลไคมาห์ไปดูไบได้ภายใน 45 นาที ส่วนสนามบินนานาชาติ กำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น เพราะ ราสอัลไคมาห์ มีเป้าหมายพัฒนาให้เป็นประตูสู่ตะวันออกกลาง และเอเชีย ส่วนที่ดึง เรอัล มาดริด มาเป็นหุ้นส่วนคราวนี้ เพราะเห็นว่ามีแฟนบอล "ราชันชุดขาว" ในทั้ง 2 ภูมิภาครวมกัน 300 ล้านคน


ทุกอย่างยังเป็นเพียงภาพจำลองเท่านั้น

        
โครงการรีสอร์ตตั้งอยู่บน อัล มาร์ยัน เกาะซึ่งมนุษย์สร้างขึ้นเองขนาด 2.7 ล้านตารางเมตร ประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทางด้านกีฬาต่างๆ เช่น สนามซ้อม, สระว่ายน้ำ, ท่าจอดเรือยอร์ช รวมถึง โรงแรมระดับ 5 ดาว, บ้านพักตากอากาศ, พิพิธภัณฑ์ไฮเทค ที่มีโรงฉายภาพ 3 มิติเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของสโมสร, สวนสนุกที่มีรถไฟเหาะ กับ สนามกีฬาขนาดความจุ 10,000 คน อัฒจันทร์ด้านหนึ่งเปิดออกสู่ทะเล สถานที่ท่องเที่ยวทันสมัย และศูนย์กีฬาขนาดใหญ่แห่งนี้ ถูกตั้งเป้าหมายว่าจะมีผู้ใช้บริการเฉลี่ยปีละประมาณ 2 ล้านคน โดย ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสร "ราชันชุดขาว" กล่าวว่า "มันคือการดำเนินงานเชิงกลยุทธ์อีกขั้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อองค์กรของเราสำหรับการสร้างความเข้มแข็งทางธุรกิจในภูมิภาคตะวันออกกลาง และเอเชีย เรอัล มาดริด จะต้องมีแหล่งสร้างรายได้อย่างถาวรในภูมิภาคสำคัญๆของโลก"


ทุกอย่างจะเกิดขึ้นจริงในปี 2015

        
เกาะ อัล มาร์ยัน ถูกสร้างขึ้นในทางตะวันตกเฉียงใต้ของ ราสอัลไคมาห์ ภายใต้งบประมาณ 18,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 547,200 ล้านบาท) อยู่ห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 27 กิโลเมตร ลึกเข้าไปในอ่าวอาระเบีย 4.5 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น 4 ส่วนใหญ่ๆคือ เกาะ 1 เหมือนประตูต้อนรับ มีการพัฒนาให้เป็นเขตที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์ เกาะ 2 เป็นหมู่อาคารสูงเพื่อการอยู่อาศัยร่วมกับธรรมชาติอันเงียบสงบ เช่นบ้านพักตากอากาศ เกาะ 3 เป็นแหล่งบันเทิง ศูนย์กีฬา และสิ่งอำนวยความสะดวกทางการค้า เกาะ 4 คือแหล่งรวมโรงแรม และรีสอร์ต


สภาพแวดล้อม จะมีทั้งบ้านพักตากอากาศ และท่าเรือยอร์ช

        
เดือนกันยายน 2007 เรอัล มาดริด ได้ชื่อว่าเป็นแบรนด์ฟุตบอลที่มีมูลค่ามากสุดในยุโรป ปี 2008 ถูกจัดให้เป็นอันดับ 2 ของสโมสรที่มีมูลค่าสูงสุดในวงการฟุตบอล (1,285 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ราว 39,064 ล้านบาท) เป็นรองแค่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แห่งเดียว ปี 2010 เรอัลมาดริด มีผลประกอบการสูงสุดในแวดวงลูกหนังโลก แม้ว่านโยบายของ เปเรซ จะประสบความสำเร็จทางการเงิน เพราะรู้จักใช้ศักยภาพด้านการตลาดของสโมสรไปทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชีย ก็ถูกวิจารณ์หนักที่มุ่งเน้นเรื่องการตลาดมากเกินไป แต่ช่วงหลังไม่ค่อยเน้นเสริมประสิทธิภาพของทีม เพื่อให้เกิดผลงานดีในสนามมากเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม ชื่อ เรอัล มาดริด ยังสามารถขายได้เสมอ เฟซบุ๊ค ของสโมสรมีผู้ชื่นชอบ 25,964,634 คน บาร์เซโลน่า 28,464,603 คน ขณะ แมนฯยูไนเต็ด 23,573,699 คน ทวิตเตอร์ เรอัล มาดริด มีผู้ติดตาม 3,944,566 คน ส่วน แมนฯยูไนเต็ด 118,499 คน


เปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการไปแล้ว เมื่อ 23 มีนาคม 2011



        
วงการฟุตบอลยุคนี้ ต้องอยู่ให้ได้ด้วยการทำธุรกิจที่ฉลาด และมองการณ์ไกล เพราะสโมสรซึ่งมีเงินทุนเยอะ หนี้สินน้อย มีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าคู่แข่ง ไม่ใช่เก่งแต่ในสนามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โครงการ อยู่เจริญ อุตสาหกรรม (พระราม2-ท่าจีน )

โครงการ อยู่เจริญ อุตสาหกรรม- (พระราม2-ท่าจีน ) ประกาศ ให้ทราบทั่วกัน ในการให้บริการ-การขาย ยุค AEC        โครงการ อยู่เจริญ อุตสาหกรรม                  (พระราม2-ท่าจีน )                                              ประกาศ ให้ทราบทั่วกัน             ในการให้บริการ-การขาย มอบหมายและมอบอำนาจ ในการบริหารและการขายโครงการ ให้กับ กลุ่ม การบริหาร D-HOUSE GROUP  -เพื่อ ดำเนินการบริหารการก่อสร้าง-การบริหารการขายและการบริหารการตลาด เพื่อให้โครงการได้ดำเนินการอย่างมั่งคลั่งมีหลักวิชาการตลอดจนสอดคล้องกับ การตลาดยุคปัจจุบัน การบริหารการค้าที่ยั่งยืนและมีธรรมาภิบาล ทันสมัยทันเหตุการณ์ เป็นการค้าและการบริการแบบยั่งยืน โดยมี คณะบริหาร ดังนี้                                          Mr. Yanghee                                                     ประธานกรรมการ                                Dr.Samai Hemman                                           CEO             นโยบาย มุ่งมั่งสูความเป็นผู้นำด้าน นิคมอุตสาหกรรม    

บริษัทนครปฐมเครื่องดื่ม จำกัด ติดต่อผู้แทนจำหน่าย เงื่อนไขการจำหน่าย

บริษัทนครปฐมเครื่องดื่ม จำกัด เครื่องดื่มชูกำลัง 50-50 รุ่น ฟิฟตี้- 2000   เน้นคุณภาพจิตใจ ทุกสรรพสิ่ง... แห่งความดีทั้งผอง   พึงมี   พึงเกิด   พึงเป็น   พึงได้รับ   พึงพบเห็น   พึงครอบครอง ผู้มีความดี   ผู้มีความเข้าใจ   ผู้มีความเพียร   ผู้มีความรัก   ผู้มีความเมตตา   ผู้มีคุณธรรม ทุกสรรพสิ่งแห่งความดีทั้งผอง... ล้วนเป็นหนึ่ง " < 3" ในหัวใจเรา From my heart : Thanyalak 12-12-12 ฝ่ายการตลาด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ   ติดต่อ คุณธัญลักษณ์   อาษาศรี   (นิด) :   083-1299388 บริษัทนครปฐมเครื่องดื่มจำกัด    เครื่องดื่มชูกำลัง   50-50 รุ่น ฟิฟตี้- 2000 เน้นคุณภาพจิตใจ ตั้งอยู่ที่ 92 หมู่ 3 ต.ห้วยจระเข้ อ.เมือง จ.นครปฐม   73000   โทร 081-7750404 ฝ่ายการตลาด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ   ติดต่อ คุณธัญลักษณ์   อาษาศรี (นิด) โทร : 083-1299388 --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เงื่อนไขทางธุรกิจ   ขายส่ง 1. เครื่องดื่มชูกำลัง ตรา 50-50 ฟิฟตี้ - ฟิฟตี้ รุ

มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ MBA รายชื่อผู้จบการศึกษา

รายชื่อผู้จบการศึกษา มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต MBA จ.นครปฐม       การศึกษาที่ ใส่ใจใส่ความรู้สึกใส่สามัญสำนึก จนเกิดนวัตกรรม การเรียนรู้เกิดองค์ความรู้ใหม่ เสริมสร้างองค์กรให้เข็มแข็งให้ธุรกิจยั่งยื่นอยู่รอดในวงธุรกิจ                 คณะมหาบัญฑิต มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่  จังหวัดนครปฐมขอขอบคุณครูทุกท่านที่สร้างเสริมประสบการณ์ที่ดีตลอดมา หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตของมหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ คาดหวังที่จะเติมเต็ม  ในสังคมที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารจะต้องมีศักยภาพที่จะรังสรรค์สังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และพึ่งตนเองได้ ศักยภาพหนึ่งที่ผู้บริหารการศึกษาพึงมีคือต้องเป็นผู้แสวงหาความรู้ รู้จักคัดกรองข้อมูลข่าวสาร รู้จักการนำทฤษฎีที่เหมาะสมเพื่อสังเคราะห์และ บูรณาการ กับองค์ประกอบหลักอื่นๆของสังคมเช่นความเชื่อในเรื่องประชาธิปไตย ความเสมอภาคและ วัฒนธรรมฯลฯ จนได้แนวทางสู่การปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมสำหรับสังคมไทย การเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาไทยเป็นเรื่องที่ท้าทายผู้บริหารการศึกษา การเรียน